ในงานด้านการรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ประสิทธิภาพในการสื่อสารคือกุญแจสำคัญ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูงสุดและการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆที่รวดเร็ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เครื่องมืออย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือเครื่องวิทยุสื่อสาร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสำหรับการสื่อสารและการประสานงานระหว่างทีมรักษาความปลอดภัย หากเลือกรุ่นที่มีคุณลักษณะและฟีเจอร์ต่างๆที่เหมาะสมกับการทำงาน ในบทความนี้ เราจะมาดูปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกวิทยุสื่อสารสำหรับการใช้งานรักษาความปลอดภัย และตัวอย่างการใช้งานในหน้างาน โดยเรายังจะขอแนะนำวิทยุสื่อสารรุ่นยอดนิยมที่เหมาะกับการใช้งานด้านรักษาความปลอดภัยว่ามีรุ่นไหนอีกด้วย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าสามารถเลือกวิทยุสื่อสารที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้
วิธีพิจารณาการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารสำหรับงานรักษาความปลอดภัย
ระยะทางและความครอบคลุม
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกวิทยุสื่อสารคือระยะทางและความครอบคลุม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกอุปกรณ์ที่มีระยะที่ครอบคลุมพื้นที่การทำงานทั้งหมด ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ แม้ในสภาพแวดล้อมขนาดใหญ่หรือซับซ้อน แต่หากพื้นที่มีขนาดเล็ก ก็สามารถเลือกรุ่นที่กำลังส่งน้อยลง หรือสามารถปรับกำลังส่งได้ เช่น iTalk T-245 เพื่อลดปัญหาเรื่องสัญญาณแทรกจากพื้นที่รอบนอกของการดำเนินงาน
อายุการใช้งานแบตเตอรี่และวิธีการชาร์จ
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องวิทยุสื่อสารเป็นอีกหนึ่งข้อพิจารณาที่สำคัญ รุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถสื่อสารได้โดยไม่มีการหยุดชะงัก แม้ในช่วงกะการทำงานที่ยืดเยื้อ โดยเคล็ดลับสำคัญคือต้องเช็คระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องของเครื่องจากสเป็คในโบรชัวร์ ไม่ใช่เพียงแค่ความจุแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากแต่ละรุ่นมีอัตราการใช้งานประจุแบตเตอรี่ไม่เหมือนกัน โดยสอบถามได้จากผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยุสื่อสารที่ไว้ใจได้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาวิธีการชาร์จสำหรับเครื่องส่งรับวิทยุ เช่น เป็นแบบแท่นชาร์จ หรือสามารถชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้ด้วย USB-C เช่น ZiGNAL CB-22 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานและการใช้งานที่ต่อเนื่อง
ความทนทานและความสมบุกสมบัน
ความทนทานและความสมบุกสมบันของตัวเครื่องวิทยุสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากอาจต้องอยู่ภายใต้สภาวะที่สมบุกสมบัน เช่น การใช้งานหนัก การกระแทก และการสัมผัสกับน้ำหรือผุ่น จึงควรเลือกรุ่นวิทยุสื่อสารเพื่อให้ทนทานต่อสภาวะที่สมบุกสมบันและทนทานต่อการใช้งานซ้ำๆ โดยสามารถดูได้จากมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น (Ingress Protection: IP) และมาตรฐานกันสั่นสะทือน การกระแทก หรือการตก (Military Standard: MIL-STD) โดยสามารถดูได้จากสเป็คของรุ่นในโบรชัวร์ได้
การใช้งานที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และใช้งานง่าย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควรสามารถใช้เครื่องส่งรับวิทยุได้อย่างง่ายดาย แม้ในสถานการณ์ที่มีความกดดันสูง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเครื่องส่งรับวิทยุที่มีการใช้งานที่ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ พร้อมด้วยคุณสมบัติที่เข้าถึงและควบคุมได้ง่าย เช่น หน้าจอและตัวหนังสือที่ใหญ่ มองเห็นง่ายและรวดเร็วเพียงแค่หางตา ปุ่มกดมีขนาดใหญ่เพื่อให้ควบคุมเครื่องได้อย่างแม่นยำ หรือสีของหน้าจอที่สามารถเปลี่ยนตามหน้างานได้ เช่น ZiGNAL NW-751 เพื่อให้เห็นได้ชัดเจนตลอดเวลาในทุกสถานการณ์
ความคุ้มค่า
ต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกวิทยุสื่อสารในงานรักษาความปลอดภัย เนื่องจากการใช้งานที่มีปริมาณมาก แต่หากใช้รุ่นที่มีราคาถูก แต่ไม่ได้คุณภาพ ก็อาจสร้างอุปสรรคในการสื่อสารได้ ดังนั้น ควรเลือกรุ่นที่ราคาคุ้มค่า พร้อมด้วยคุณสมบัติและความสามารถที่สมเหตุสมผลกับราคา และพิจารณาการซื้อรุ่นเดียวกันกับผู้ขายหนึ่งรายในปริมาณมากสำหรับใช้งานทั้งทีม เพื่อลดต้นทุนด้านราคา และเพื่อความง่ายกาบริหารการชาร์จ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ และการบำรุงรักษา รวมถึงสื่อสารได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดระหว่างกัน
การรับประกันและการบริการ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกันในการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารสำหรับการใช้งานรักษาความปลอดภัย คือการประกันตัวเครื่องวิทยุสื่อสาร และการบริการจากผู้ขาย เพื่อให้ไม่ต้องพะวงในเรื่องของการซ่อมเครื่อง หรือจัดการกับเครื่องที่มีปัญหา เช่น Yaesu FT-4T ที่มีการรับประกันตัวเครื่องถึง 2 ปี เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโฟกัสไปที่งานรักษาความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องมือที่ควรจะช่วยสนับสนุนการทำงานมากกว่าที่จะเป็นภาระ โดยเฉพาะอย่างกับเครื่องวิทยุที่ซื้อทางออนไลน์จากผู้ขายที่ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้เต็มที่
การใช้วิทยุสื่อสารสำหรับงานรักษาความปลอดภัยในรูปแบบต่างๆ
การรักษาความปลอดภัยในอาคาร สถานที่
เครื่องวิทยุสื่อสารสำหรับใช้งานในอาคารสถานที่ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือต้องให้แน่ใจว่าวิทยุสื่อสารที่ใช้ สามารถครอบคลุมพื้นที่หน้างานได้ โดยไม่มีจุดบอดในการส่งสัญญาณ ซึ่งอาจสร้างพื้นที่จุดอ่อนในงานรักษาความปลอดภัยได้ หากเลือกรุ่นที่เหมาะสม จะทำให้ทีมงานสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามหรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มการประสานงานและความปลอดภัยในอาคารขนาดใหญ่หรือพื้นที่ซับซ้อน
การรักษาความปลอดภัยในงานอีเวนต์
วิทยุสื่อสารสำหรับใช้เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมในงานอีเวนต์ หรือการประชุมระดับชาติต่างๆ งานลักษณะนี้มักเป็นพื้นที่เปิดโล่ง แต่อาจมีโอกาสที่คนเยอะได้ วิทยุสื่อสารสำหรับใช้งาน ควรเป็นรุ่นที่ลำโพงให้เสียงดัง ฟังชัด และมีความสมบุกสมบัน ทนทาน เพื่อให้สามารถใช้ในหน้างานรูปแบบต่างๆได้อย่างหลากหลาย เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานในทุกสสถานการณ์
การคุ้มกันบุคคลสำคัญ
วิทยุสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่งในงานคุ้มกันบุคคลสำคัญ หรือบอดี้การ์ด ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสื่อสารแบบเรียลไทม์เพื่อประสานงานและตอบสนองต่อภัยคุกคามหรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลในคุ้มกันได้ ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่มีคุณภาพสูง ไว้ใจได้ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหากงานมีความยืดเยื้อ หรือฟีเจอร์ที่สามารถสแตนด์บายได้ 2 ช่องสัญญาณ เพื่อประสานงานกับทีมอื่นๆ เพื่อความไหลลื่นของงานได้
สรุป การเลือกวิทยุสื่อสารสำหรับงานรักษาความปลอดภัย
จะเห็นได้ว่า วิทยุสื่อสารแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่น ฟีเจอร์ และลักษณะการใช้งานี่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป ผู้ใช้งานจึงควรเลือกรุ่นวิทยุสื่อสารที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานเฉพาะของตนเอง เพื่อให้งานรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถประสานงานกันได้อย่างทันท่วงที พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่หากคุณต้องการปรึกษารุ่นที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานของคุณ สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยุสื่อสาร เช่นร้านขายวิทยุสื่อสารที่ไว้ใจได้ หรือผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของประเทศ เช่น นิว เวฟ ดิสทริบิวชั่น ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายวิทยุสื่อสารชั้นนำของประเทศไทย มีตัวแทนกว่า 200 รายทั่วประเทศ โดยสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ เราพร้อมให้คำปรึกษาในทุกการใช้งาน
